วิจารณ์วรรณกรรมโลกเรื่อง น้ำหอม และ “เพื่อนยาก

ชีวิตของมนุษย์เรา เกิดมาครั้งหนึ่ง ย่อมหวังที่จะได้ในสิ่งที่ดีที่สุด ดังคำกล่าวที่ว่า ครั้งหนึ่งในชีวิตเพราะเราไม่อาจทราบได้ว่าเราจะสามารถมีความสุขอยู่บนโลกใบนี้ได้นานเท่าไร หลายคนจึงเลือกที่จะทำทุกอย่างเพื่อตัวเอง ทำในสิ่งที่ตนรักและต้องการ เพื่อเป้าหมายที่สูงสุดในชีวิต ซึ่งนั่นถือเป็นเรื่องปกติของสัญชาตญาณของคนเราที่มักจะทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้ในสิ่งที่เราต้องการ จนบางครั้งเราก็ลืมสนใจไปว่าเราสูญเสียอะไรไปบ้างกับความต้องการของเรา แต่หากเปรียบกับคนบางคน ที่บางครั้งเขาทำทุกอย่างเพื่อผู้อื่นโดยที่คนๆนั้นไม่สามารถรับรู้ได้ว่าเราทำเพื่อเขาอย่างไร? และหลายครั้งที่ต้องทำในหน้าที่ ทำเพราะความจำเป็น ไม่ใช่ทำเพราะความต้องการของตัวเอง หลานคนคงเคยได้ยินผ่านหูมาบ้าง สำหรับวรรณกรรมโลกชื่อดังอย่างเรื่อง น้ำหอม และ เพื่อนยาก ที่กล่าวถึงเรื่องราวของมนุษย์ที่ต่างก็เกิดขึ้นมาอยู่บนโลกใบเดียวกัน ใช้ชีวิตอยู่กับความขวนขวายและพยายาม เพื่อสร้างความภาคภูมิใจสูงสุดในชีวิต แต่การดำเนินชีวิตของคนเราก็ใช่ว่าจะราบรื่นเสมอไป เพราะมันมักจะมีอุปสรรคมาขวางกั้นอยู่เสมอ บางคนสามารถผ่านอุปสรรคเหล่านั้นมาได้ในทุกๆครั้ง แต่บางคนไม่ว่าจะพยายามผ่านมันไปเท่าไหร่ แต่จนแล้วจนรอด ขวากหนามเหล่านั้นก็มักจะเข้ามาทำให้สะดุดกลางคันอยู่ร่ำไป แล้วจุดจบของ ครั้งหนึ่งในชีวิต จะเป็นอย่างไรกันแน่ ความฝันที่เอื้อมมาได้ง่ายๆ กับความพยายามที่จะทำตามความฝันแม้จะต้องลุกเป็นสิบครั้งก็ตาม

Join now!

น้ำหอม วรรณกรรมที่กล่าวถึงผู้ชายคนหนึ่งที่ชื่อว่า เกรอนุยเขามีความสามารถพิเศษในการรับรู้กลิ่นเป็นอย่างดี บุคลิกของเขาในเรื่องตรงกับชีวิตของคนเราก็คือ พยายามที่จะบรรลุเป้าหมายในชีวิตไปให้ได้ แต่นั่นก็ทำให้เขาค้นพบว่า การที่เขาสร้างน้ำหอมขึ้นมานั้น แม้ว่ามันอาจทำให้ผู้คนยกย่อง และหลงใหลในตัวเขามากเพียงใด แต่นั่นมันเป็นเพียงแค่ภายนอก ถ้าเกิดเขาไม่มีน้ำหอมที่เป็นตัวชักจูงผู้คนแล้ว เขาก็คงเป็นเพียงแค่ผู้ชายธรรมดา ที่ไม่เคยได้รับความสนใจจากใคร และนั่นถือเป็นสาเหตุที่เขาพยายามสร้างจุดสนใจจากพรสวรรค์ที่มีอยู่ของตัวเอง เขาทำทุกอย่างด้วยตัวเอง ไม่เคยมีใครรู้ว่าเขาทำอะไรร้ายแรงต่อสังคมไปบ้าง อาจเป็นเพราะ เขาเกิดมาอย่างโดดเดี่ยว แตกต่างจากเรื่อง เพื่อนยาก ที่มีตัวละครหลักสองคน ชื่อว่า จอร์จและ เลนนี่ต่างก็มีความฝันเหมือนกันคือ มีฟาร์มเป็นของตัวเอง แต่ต่างคนต่างก็มีความแตกต่างบางอย่างในความฝันที่เหมือนกัน สำหรับจอร์จแล้วเขาอยากที่จะมีครอบครัว ต่างจากเลนนี่เขาอยากจะมีพื้นที่เล็กๆในฟาร์มสำหรับเลี้ยงกระต่าย แต่ทั้งสองก็พยายามมาด้วยกัน แม้เลนนี่อาจเป็นตัวถ่วงของจอร์จในหลายๆเรื่อง แต่พวกเขาก็ไม่เคยทิ้งกัน เพราะเขามาด้วยกัน ไม่เหมือนกับเกรอนุยที่เดินตามความฝันเพียงลำพังอย่างลึกลับ และเกรอนุยก็ไม่พบเจอกับปัญหาเหมือนกับจอร์จ เพราะเกรอนุยเขาคิดอยากจะทำอะไรก็ทำ ไม่ต้องมาคอยห้วงหน้าห่วงหลังเหมือนกับจอร์จ ที่ต้องคอยห่วงว่าเลนนี่จะเป็นยังไง เพราะนั่นคือหน้าที่ของเขาที่ยายฝากของเลนนี่ฝากจอร์จไว้ ว่าให้คอยดูแลเลนนี่ด้วย นั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้จอร์จต้องคอยดูแลเลนนี่ตลอด ส่วนหนึ่งอาจไม่ใช่เพราะคำว่า หน้าที่ แต่สำหรับผมแล้วคิดว่ามันเป็นเพราะความรู้สึกลึกๆของจอร์จ ที่ไม่อยากทอดทิ้งผู้ชายที่หน้าสงสารอย่างเลนนี่นั่นเอง เพราะเขารู้ว่าเลนนี่ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้จริงๆ ถึงแม้หลายครั้งเลนนี่จะคิดว่า เขาช่วยเหลือจอร์จ แต่นั่นกลับกลายเป็นการอุปสรรคที่ใหญ่หลวงให้กับจอร์จ แต่เกรอนุยนั้น เขาได้รับโอกาสที่ดี และไม่มีใครอีกคนมาเพิ่มปัญหาให้กับทางเดินของเขา เขาเลยสามารถผ่านมันไปได้ง่ายกว่าจอร์จ มันสะท้อนให้เห็นถึงความพยายามที่ต้องมากขึ้นเป็นสิบเท่าของจอร์จที่จะทำในอย่างที่ตัวเองฝัน หากเปรียบกับชีวิตของเราในโลกแห่งความเป็นจริงแล้ว คงมีหลายคนที่คิดว่า เราพยายามแล้ว ทำไมเราถึงไม่ได้ในสิ่งที่เราต้องการซักที พอเจออุปสรรคนิดหน่อย ก็จะเริ่มรู้สึกขี้เกียจที่จะทำ อยากจะผ่านมันไปเร็วๆ โดยที่เราไม่เคยนึกถึงคนที่มีอุปสรรคมากกว่าเราเป็นร้อยเท่าพันเท่า บางคนเขามักจะมีตัวถ่วงเสมอ แม้เขาจะมีมันสมอง ความสามารถหรือศักยภาพในทุกๆด้านพร้อม แต่ถ้ามีอุปสรรคมาขวางเสมอ กว่าจะผ่านมันไปได้คงเป็นเรื่องยาก แต่เมื่อเขาเจอกับอุปสรรคพวกนั้น เขาจะไม่เอ่ยสิ่งใดๆ อาจมีบ้างที่สึกท้อ แต่เขาจะพยายามคิดว่าอุปสรรคเหล่านั้นเป็นประสบการณ์ชีวิตที่ล้ำค่า มันก็จะทำให้เขาผ่านมาได้ และบรรลุเป้าหมายได้เร็วกว่าคนที่มีอุปสรรคน้อย แต่มัวแต่จมอยู่กับมัน นั่นคือความแตกต่างของที่มาจากวรรณกรรมสองเรื่องนี้ และทำให้ผมนำมาเป็นข้อคิดในเรื่องของการทำงาน นี่ถือเป็นความแตกต่างในการดำเนินชีวิตของตัวละครทั้งสองเรื่องนี้ ความแตกต่างที่ว่าในสองเรื่องนี้ มันเกิดขึ้นมาได้ อาจเป็นเพราะ ทั้งสองเรื่องเกิดขึ้นมาในคนละช่วง คนละยุคสมัยกัน สภาพแวดล้อม สภาพสังคมจึงแตกต่างกัน ส่งผลทำให้การดำเนินชีวิตและทัศนคติของคนต่างกันไปด้วย อย่างในเรื่อง น้ำหอม เกิดขึ้นในยุคสมัยที่เก่าแก่ อย่างเกรอนุยในเรื่อง เขาเกิดมาในสถานที่ๆไม่ค่อยดีนัก มีสภาพแวดล้อมที่ย่ำแย่ ซึ่งในสมัยนั้น ก็ใช่ว่าทุกคนที่เกิดมาจะเป็นแบบเขา เพราะว่าแต่ละชุมชนก็จะมีกลุ่มคนชั้นสูง ที่มองพวกที่เกิดมาในสถานที่เล็กๆ สกปรกๆอย่างเกรอนุย เป็นพวกชั้นต่ำ นั่นจึงทำให้เขารู้สึกอยากที่จะก้าวไปให้ถึง และกลายเป็นจุดสนใจของผู้อื่นบ้าง เขาไม่อยากที่จะถูกสายตาของผู้อื่นมองมาไม่ดี ส่วนเรื่องเพื่อนยาก นั้นสังคมมีความย้ำแย่ ...

This is a preview of the whole essay